กงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ เยือนเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟูกูโอกะ เพื่อศึกษาศักยภาพและโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือไทย - คิตะคิวชู

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายอัฐกาญจน์ วงศ์ชนะมาศ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เดินทางเยือนเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟูกูโอกะ และเข้าเยี่ยมคารวะนายคิตะฮาชิ เคนจิ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชู โดยได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับเมืองคิตะคิวชูในด้านต่าง ๆ รวมทั้งฟังบรรยายสรุปและศึกษาดูงานบริษัทเอกชนท้องถิ่นที่สำคัญของเมืองคิตะคิวชู และได้เยี่ยมชมสถานที่สำคัญของเมืองคิตะคิวชู

นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชู กล่าวต้อนรับกงสุลใหญ่ฯ และคณะ และแจ้งว่า เมืองคิตะคิวชูมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยมาหลายด้าน เช่น การรับนักศึกษาจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ให้มาฝึกงานและทำงานในบริษัทเอกชนในเมืองคิตะคิวชู การสนับสนุนให้เมืองคิตะคิวชูเป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์น้องพี่ที่รัก ละครเด็ดปีกนางฟ้า เป็นต้น และเมืองคิตะคิวชูยินดีที่จะเป็นค่ายเก็บตัว (Host Town) นักกีฬาเทควันโด และปิงปอง ทีมชาติไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2564 นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นถือว่าเมืองคิตะคิวชูเป็นตัวอย่างที่ดี และเป็นเมืองต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการของเสีย ซึ่งที่ผ่านมา เมืองคิตะคิวชูได้มีความร่วมมือด้านนี้กับไทยอย่างใกล้ชิด

ทางด้านกงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยมิตรภาพ และย้ำว่า สถานกงสุลใหญ่ฯ มีภารกิจหลักในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจังหวัดต่าง ๆ ในภูมิภาคคิวชู โอกินาวะ และจูโกะกุ ในทุกมิติ และได้ชื่นชมที่เมืองคิตะคิวชูเป็นเมืองที่สำคัญมากของเกาะคิวชู มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจสูง เป็นเมืองท่าและเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ อีกทั้งปัจจุบันมีบริษัทเอกชนจากเมืองคิตะคิวชูกว่า 20 แห่ง สนใจไปลงทุนที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังแจ้งด้วยว่า แม้ว่าปัจจุบันทั่วโลกยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ จากมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางระหว่างประเทศ ล่าสุด รัฐบาลไทยได้ผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวญี่ปุ่น ทั้งนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปประเทศไทยได้ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด อาทิ การตรวจหาเชื้อโควิด – 19 (PCR) ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง และการกักตัว 14 วัน ในโรงแรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานของ กระทรวงสาธารณสุข โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว จัดเที่ยวบินพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์เดินทางไปประเทศไทยเป็นประจำทุกสัปดาห์ และพร้อมที่จะให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในการเดินทางไปประเทศไทยในช่วงนี้

ในโอกาสเดียวกัน นายกเทศบาลเมืองคิตะคิวชูได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติและต้อนรับกงสุลใหญ่ฯ และคณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชูยังจัดให้กงสุลใหญ่ฯ และเจ้าหน้าที่ มีโอกาสศึกษาดูงานที่โรงงาน Shabondama Sekken ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสบู่จากวัตถุดิบธรรมชาติ โดยได้ค้นคว้าวิจัย และพัฒนาการนำฟองสบู่มาเป็นส่วนผสมของสารดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดการใช้น้ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่บริษัทแจ้งว่า ในอนาคตสนใจที่จะมีความร่วมมือกับทางการไทยที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี

ต่อจากนั้น คณะได้เยี่ยมชมบริษัท ICS Sakabe ซึ่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และได้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองคิตะคิวชูกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ของไทย โดยได้พบกับนักศึกษาชาวไทย 1 คน ที่กำลังฝึกปฏิบัติงานด้านหุ่นยนต์ ที่บริษัท ICS Sakabe และสำหรับปี 2564 เมืองคิตะคิวชูจะรับนักศึกษาฝึกงานจากประเทศไทยจากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ มาฝึกปฏิบัติงานเป็นรุ่นที่ 3 อีก 6 คน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้มีการพัฒนาบุคลากรของไทย โดยมาศึกษานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงจากการฝึกปฏิบัติงานจริง และเสริมสร้างประสบการณ์การทำงานกับบริษัทของญี่ปุ่น นับว่าจะช่วยสนับสนุนนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของไทยและญี่ปุ่น โดยเฉพาะด้านวิศวกรภาคอุตสาหกรรมในเมืองคิตะคิวชูต่อไปด้วย

ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชูยังให้เจ้าหน้าที่นำกงสุลใหญ่ฯ และเจ้าหน้าที่ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ สวนกรีน พาร์ค ซึ่งมีดอกกุหลาบนานาชนิดที่สวยงาม และเปิดเป็นสวนสาธารณะให้ชาวเมืองคิตะคิวชูได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเยี่ยมชมปราสาทโคคุระ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองคิตะคิวชู หรือ เมืองโคคุระในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของญี่ปุ่นทางทิศตะวันตก