เมื่อวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2568 นายโกศล สถิตธรรมจิตร กงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ให้การต้อนรับผู้บริหารของกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าร่วมหลักสูตรการบูรณาการพัฒนากรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน (มหานครยั่งยืน รุ่น 2) ของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาศึกษาดูงานเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองของจังหวัดฟูกูโอกะใน 4 หัวข้อ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ได้แก่ การจัดการภัยพิบัติ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ และการอยู่ร่วมกันของธรรมชาติ มนุษย์และสัตว์ (One Health)

ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานกับจังหวัดฟูกูโอกะ ในฐานะเมืองพี่เมืองน้องของจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อจัดกำหนดการต่างๆ ให้คณะฯ อาทิ การเข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดฟูกูโอกะ การบรรยายสรุปข้อมูลสำคัญในด้านต่างๆ ของเมืองฟูกูโอกะ และการเยี่ยมชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศูนย์เรียนรู้ภัยพิบัติฟูกูโอกะ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายกับสมาชิกสภาจังหวัดฟูกูโอกะ โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้เสนอให้สภาของทั้งสองจังหวัดใช้กรอบความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องร่วมกันดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนเพื่อการพัฒนากรุงเทพฯ และฟูกูโอกะ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองโอกาสการครบรอบ 20 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดฟูกูโอกะในปี 2569

ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับคณะฯ รวมถึงนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร และ รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เกี่ยวกับเทคนิคการศึกษาดูงานที่จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย โดยเสนอให้ใช้หลัก 4Ps ได้แก่ (1) P Pain Point กำหนด “จุดที่เป็นปัญหา” เพื่อเป็นโจทย์การดูงานที่ชัดเจน (2) P Plan วางแผนงานที่จะทำต่อหลังจบการดูงาน รวมถึงการติดตามและประเมินผล (3) P Project ดำเนินโครงการรูปธรรมเพื่อนำร่องการแก้ pain point ที่กำหนดไว้ และ (4) P PhaseII ดูงานเป็นเฟส ๆ กล่าวคือ หากจะมาดูงานในเรื่องเดิมอีก ก็ขอให้นำผลที่ได้จากการดูงานครั้งที่ผ่านมามานำเสนอฝ่ายญี่ปุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการดูงานเหมือนเดิมซ้ำๆ กัน และต่อยอดจากสิ่งที่ได้เคยมาศึกษาดูงานไปแล้ว พร้อมกันนี้ ก็ได้เสนอให้มหาวิทยาลัยฯ ใช้หลัก 4Ps ดังกล่าว เพื่อจัดให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตรมาหนครยั่งยืนรุ่นต่อไป (รุ่นที่ 3) มาศึกษาดูงานที่เมืองฟูกูโอกะอีก เพื่อให้เกิดโครงการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณะที่กระทบความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ