วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ก.พ. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 6 มี.ค. 2567
สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยในภูมิภาคคีวชู โอกนาวะ และชูโกกุ
ด้วยผมจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเข้ารับหน้าที่“เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง” สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการต่างประเทศ ในวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นี้ จึงถึงเวลาสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่กงสุลใหญ่ฯ พร้อมขออนุญาตกล่าวคำอำลาพี่น้องชาวไทยในเขตกงสุลทุกท่าน
เป็นเวลากว่า ๒ ปี ๔ เดือน ที่ผมได้ทำหน้าที่กงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ ซึ่งเป็นสถานกงสุลใหญ่แห่งใหม่ล่าสุดของไทย และได้เปิดทำการมาเป็นเวลากว่า ๕ ปีแล้ว โดยมีภารกิจสำคัญคือ (๑) ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น (๒) ส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทย และ (๓) คุ้มครองดูแลคนไทยอย่างทั่วถึง พร้อมรองรับภารกิจด้านกงสุลที่เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผมได้เข้ารับหน้าที่ฯ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิด-๑๙ ที่แพร่ระบาดหนักทั่วโลก กอปรกับเป็นช่วงที่เชื้อโอไมครอนกำลังระบาดในญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี สถานกงสุลใหญ่ฯ ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้นำภาครัฐและเอกชนของจังหวัดฟูกูโอกะ และทุกจังหวัดในเขตกงสุลอย่างต่อเนื่อง โดยผมได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในเขตกงสุล ครบทั้ง ๑๓ จังหวัดภายในช่วงปีแรกของการเข้ารับหน้าที่ฯ ซึ่งในการเยือนแต่ละจังหวัด ก็ได้ขอเข้าพบหารือกับประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของจังหวัด เพื่อปูทางสู่ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งได้ขอเข้าพบหารือกับอธิการบดี และพบเยี่ยมผู้แทนนักศึกษาไทยในทุกมหาวิทยาลัยประจำจังหวัด เพื่อผลักดันการสร้าง partners กับฝ่ายญี่ปุ่นในมิติด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ผ่านสถาบันการศึกษา ระดับมหาวิทยาลัย ระดับอาชีวศึกษา และอื่น ๆ ของทั้งญี่ปุ่นและไทย ตลอดจนพบเยี่ยมผู้แทนชุมชนไทยในทุกจังหวัด เพื่อกระชับและเสริมสร้างเครือข่ายชุมชนไทยในเขตกงสุล
ในปี ๒๕๖๕ และ ๒๕๖๖ สถานกงสุลใหญ่ฯ สามารถจัด“งานเทศกาลไทยในฟูกูโอกะ”ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๕ และ ๒๗ - ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ตามลำดับ ซึ่งงานฯ ประสบความสำเร็จอย่างดีในการประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมไทย อาหารและสินค้าไทย รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ของเครือข่ายคนไทยและชุมชนไทยในพื้นที่ โดยมีผู้เข้าร่วมงานฯ ในแต่ละครั้งกว่า ๑๒,๐๐๐ คน โดยเฉพาะในปี ๒๕๖๖สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจำจังหวัดฟูกูโอกะ จัดเป็นงาน Consumer Fairs ในงานเทศกาลไทยด้วย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งอีกครั้งในการประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมไทย อาหาร และสินค้าไทย โดยเฉพาะผ้าพื้นเมืองจากผู้ประกอบการจังหวัดเชียงรายที่มาร่วมงานฯ
โดยในปี ๒๕๖๖ สถานกงสุลใหญ่ฯ และ ททท. สำนักงานฟูกูโอกะ ได้เข้าร่วมงานเทศกาล Beppu Hatto Onsen Matsuri ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๓ ซึ่งเทศบาลเมืองเบปปุเป็นเจ้าภาพ ที่เมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ในวันที่ ๑ - ๒ เมษายน ๒๕๖๖ และได้ร่วมกับฝ่ายไทยจัด “งานเทศกาลสงกรานต์เบปปุ (Beppu Songkran Festival)” ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป เพื่อเผยแพร่ประเพณีวัฒนธรรมไทย และการออกบูธประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย ตลอดจนเข้าร่วมเดินพาเหรดในนามทีมประเทศไทยในเทศกาล Beppu Hatto Onsen Matsuri ซึ่งเป็นการเดินพาเหรดของขบวนแห่บ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่ ๘ แห่ง ในเมืองเบปปุ รวมทั้งร่วมการสาดน้ำออนเซ็นในเทศกาล Yu-Bukkake Matsuri อีกด้วย ซึ่งในปี ๒๕๖๗ นี้ จะมีการจัดงาน“เทศกาลสงกรานต์เบปปุ”อีกครั้งในวันที่ ๖ - ๗ เมษายน ๒๕๖๗ ที่เมืองเบปปุ รวมทั้งเป็นโอกาสเฉลิมฉลองที่ประเพณีสงกรานต์ในไทยได้รับกาขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยยูเนสโกด้วย
นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสบความสำเร็จด้วยดีในการจัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติไทย และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ทั้งในปี ๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ และในปี ๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ ณ โรงแรม Okura Fukuoka ในเมืองฟูกูโอกะ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชนของญี่ปุ่น คณะผู้แทนทางการทูต ตลอดจนพี่น้องชาวไทยในภูมิภาคคีวชู โอกินาวะ และชูโกกุ เข้าร่วมงานฯ กว่า ๓๐๐ คนในแต่ละครั้ง ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับความร่วมมือจากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมของไทยอนุเคราะห์จัดชุดการแสดง‘รำอาศิรวาทราชสดุดี’เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ และการแสดงโขนชุด ‘ยกรบ’ ทั้งในปี ๒๕๖๕ และ ๒๕๖๖ โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เข้าร่วมงานฯ รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่นที่มาทำข่าว อันเป็นการเน้นย้ำ Soft Power และประชาสัมพันธ์ความพร้อมของไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มที่
อีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ดำเนินการต่อเนื่องมา ๒ ปีแล้ว คือ การถวายการรับเสด็จฯ ศ. ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จเยือนจังหวัดคูมาโมโตะ ระหว่างวันที่ ๒๒ - ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๕ เพื่อทรงเข้าร่วมพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์กับมหาวิทยาลัยคูมาโมโตะ พร้อมทรงบรรยายทางวิชาการ และต่อมาในปี ๒๕๖๖ ได้เสด็จฯ เยือนจังหวัดคูมาโมโตะ อีกครั้งระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ เพื่อเสด็จฯ เยี่ยมชมฟาร์มปลาคาร์ป ในเมืองคูรูเมะ จังหวัดฟูกูโอกะ ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามคำทูลเชิญของผู้บริหารฟาร์มปลาคาร์ปโอกาตะ
ขอเรียนว่า ในช่วงที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ฯ ได้มุ่งเน้นการขยายช่องทางความร่วมมือกับสำนักงานจังหวัดต่าง ๆ ของญี่ปุ่น โดยร่วมกับ “หน่วยงานทีมประเทศไทย” ผลักดันการจัดกิจกรรม ภายใต้งบประมาณยุทธศาสตร์บูรณาการ ในโครงการต่าง ๆ อาทิ“เทศกาลไทย” ที่หลายจังหวัดเคยจัดร่วมกัน ตั้งแต่ทั้งในช่วงก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ได้แก่ จังหวัดฟูกูโอกะ จังหวัดซากะ และจังหวัดโออิตะ รวมทั้งแสวงหาโอกาสขยายการจัดเทศกาลไทย และกิจกรรมต่าง ๆ ไปยังจังหวัดอื่นที่มีศักยภาพ และสนใจที่จะแลกเปลี่ยนกับไทย เช่น จังหวัดโอกินาวะ ฮิโรชิมะ (ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานตัวแทนการค้าของไทย) คูมาโมโตะ คาโกชิมะ นางาซากิ และมิยาซากิ ส่วนการสืบสานสร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายต่าง ๆ ในพื้นที่นั้น ก็เป็นภารกิจสำคัญที่สถานกงสุลใหญ่ฯ มุ่งมั่นส่งเสริม และกระชับความสัมพันธ์ทั้งกับเครือข่ายไทย-ญี่ปุ่น และเครือข่ายกลุ่มอื่น ๆ ที่สำคัญอย่างใกล้ชิด
ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยในเขตกงสุลทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนภารกิจของสถานกงสุลใหญ่ฯ มาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด พร้อมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกโปรดดลบันดาลให้พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไป
สวัสดีครับ
โสรัจ สุขถาวร
เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
กระทรวงการต่างประเทศ
๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
รูปภาพประกอบ
วันจันทร์ - วันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
เวลาให้บริการ 9.30 - 11.30 น. และ 13.30 - 15.00 น.
เวลาทำการ 9.00 - 12.00 น. และ 13.30 - 17.30 น.
ช่องทางการติดต่อ
◦ ฝ่ายกงสุล (งานหนังสือเดินทาง บัตรประชาชน นิติกรณ์เอกสาร การตรวจลงตรา และอื่น ๆ)
โทร : 092-739-9090 (15.30 - 17.30 น.)
Email : [email protected]
◦ สำนักงาน
โทร : 092-739-9088
แฟกซ์ : 092-739-9089
Email : [email protected]
>> กรณีฉุกเฉิน ติดต่อ 090-2585-3027 หรือ 090-9572-1515 (สำหรับคนไทยขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินเท่านั้น) <<